FAQ: คำถามที่พบบ่อย

มีคำถามเกี่ยวกับเราใช่มั้ย?
เราพร้อมให้บริการ!

การจองบริการ

1. ราคาการให้บริการที่ระบุในเว็บไซต์ เป็นราคาสุทธิหรือไม่?

ราคาการให้บริการที่ระบุในเว็บไซต์ เป็นราคาสุทธิรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้ว

2. การจองบริการกับอะบาวัต สามารถจองได้กี่ช่องทาง?

สามารถจองบริการได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
• จองผ่าน Line ID: @abawat.th.care
• จองผ่านเบอร์โทร 02-028-7001
• จองผ่านแอปพลิเคชัน Abawat ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android

3. มีพื้นที่ให้บริการล้างแอร์ที่ต่างจังหวัดไหม?

ปัจจุบันทางบริษัทฯ มีพื้นที่ครอบคลุมให้บริการในจังหวัดกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีพื้นที่ให้บริการที่ต่างจังหวัด แต่ในอนาคตจะมีการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างแน่นอน

4. ถ้าหากยังไม่ได้สมัครสมาชิก สามารถจองบริการได้หรือไม่?

สามารถจองบริการได้โดยที่ไม่ต้องเป็นสมาชิก แต่การเป็นสมาชิกกับทาง Abawat ลูกค้าจะได้รับข่าวสารและไม่พลาดส่วนลดพิเศษ ในกรณีมีโปรโมชั่น

การชำระเงิน

1. จะต้องชำระเงินก่อนที่ทีมช่างจะเข้ามาให้บริการหรือไม่?

บริษัทฯ มีนโยบายให้ลูกค้าชำระเงินขั้นต่ำ 500 บาท หรือ 30% ของยอดชำระเต็มจำนวน ( เจ้าหน้าที่จะแจ้งอีกครั้ง ) หรือลูกค้าสะดวกชำระเงินเต็มจำนวนเพื่อเป็นการจองคิว โดยเป็นการชำระเงินผ่านระบัญชีธนาคาร
หรือ QR Payment ของบริษัทฯ เท่านั้น ในส่วนยอดที่เหลือสามารถชำระเงินที่หน้างานได้

2. สามารถชำระเงินได้ช่องทางใดบ้าง?

สำหรับช่องทางการชำระเงิน มี 2 ช่องทาง ดังนี้
• ชำระเงินผ่าน บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 104-238451-3 ชื่อบัญชี Abawat (Thailand) Co.,Ltd.
• ชำระเงินผ่าน QR Payment

3. ระยะเวลาการชำระเงินค่าบริการภายในกี่วัน?

หลังจากที่ลูกค้าจองวันนัดหมายเข้าบริการแล้ว ต้องชำระเงินค่าบริการภายใน 3 วัน

4. สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้หรือไม่?

ปัจจุบันยังไม่มีช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ผ่าน Line OA แต่ลูกค้าสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ผ่านช่องทาง Abawat Application

การขอเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายและการขอยกเลิกบริการ

1. เปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้หรือไม่ ต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วัน?

ในกรณีที่ลูกค้าต้องการเปลี่ยนแปลงวันนัดหมาย ลูกค้าสามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ โดยติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001
ลูกค้าจะต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนถึงวันนัดหมายเดิม

2. หากต้องการยกเลิกการจอง ต้องดำเนินการอย่างไร?

หากลูกค้าต้องการยกเลิกการจอง สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001 เพื่อพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป

3. หากยกเลิกบริการเกินเวลาที่กำหนด จะได้รับเงินคืนไหมหรืออย่างไร?

ในกรณีที่ลูกค้าต้องการขอยกเลิกบริการ ลูกค้าต้องแจ้งยกเลิกบริการก่อนเวลานัดหมาย ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง โดยจะได้รับเงินคืน ภายใน 7-14 วัน
สำหรับลูกค้าที่ยกเลิกบริการก่อนเวลานัดหมายต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่ามัดจำในทุกกรณี

การขอคืนเงิน

1. สามารถติดต่อขอรับเงินคืนได้อย่างไรบ้าง?

ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ต้องการยื่นเรื่องขอเงินคืนได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า ผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001 เพื่อส่งเรื่องพิจารณาต่อไป

2. แจ้งความประสงค์ขอคืนเงินต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการกี่วัน?

สำหรับการแจ้งขอคืนเงิน เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว ทางบริษัทฯ จะพิจารณาและดำเนินการคืนเงินภายในระยะเวลา 7-14 วันทำการ (ระยะเวลานี้ไม่รวมระยะเวลาที่ธนาคารเจ้าของบัตรหรือบัญชีของลูกค้า
ที่ใช้ดำเนินการ หลังจากได้รับคำสั่งให้คืนเงินจากทางบริษัทฯ แล้ว)

3. หากทีมช่างเข้าตรวจเช็คพบว่าเครื่องปรับอากาศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หรือยกเลิกบริการภายในเวลาที่กำหนด จะได้รับเงินคืนหรือไม่ และใช้ระยะเวลาดำเนินการกี่วัน?

แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 ขอสงวนสิทธิ์การให้บริการ และไม่คืนเงินค่ามัดจำขั้นต่ำ 500 บาท หรือ 30% (เจ้าหน้าที่จะแจ้งอีกครั้ง) หากทีมช่างเข้าหน้างานและตรวจสอบพบว่าเครื่องปรับอากาศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หรือมีอาการเสีย
โดยทีมช่างจะไม่ดำเนินการล้างแอร์ ลูกค้าสามารถนัดหมายทีมช่างเข้ามาล้างแอร์ได้หลังซ่อมแอร์เสร็จ
กรณีที่ 2 หากลูกค้าต้องการขอยกเลิกบริการ ลูกค้าต้องแจ้งยกเลิกบริการก่อนเวลานัดหมาย ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง โดยจะได้รับเงินค่าบริการคืน ภายใน 7-14 วัน
• ลูกค้าต้องส่งเอกสารตามที่ระบุไว้ใน ทางบริษัทฯ จะพิจารณาและดำเนินการคืนเงินภายในระยะเวลา 7-14 วันทำการ

4. เอกสารที่ต้องใช้ยื่นเรื่องขอคืนเงิน?

ลูกค้าต้องส่งเอกสารตามที่ระบุไว้ ดังนี้
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร และหมายเลขบัญชีที่ต้องการให้โอนเงินคืน (สำเนาบัญชีธนาคารจะต้องมีชื่อตรงกับลูกค้าที่เป็นผู้สั่งซื้อบริการเท่านั้น)
*ลิ้งค์สำหรับกรอกข้อมูลยื่นเรื่องขอคืนเงิน ( https://forms.gle/ycgQLfNnyHNxT6HJ7 ) ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

การขอใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี

1. หากต้องการขอเอกสารใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี ต้องทำอย่างไร?

กรณีที่ลูกค้าต้องการขอเอกสารใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า ผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001 เพื่อพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป

2. ใบกำกับภาษีจะได้รับภายในกี่วัน?

ทางบริษัทฯ ใช้เวลาดำเนินการ 7 – 14 วัน และจะออกให้เป็นวันที่ล้างแอร์เสร็จเท่านั้น ไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีย้อนหลังได้ (วันที่ใบเอกสารลงวันที่ล้างเสร็จเท่านั้น)

ทีมช่าง

1. จะทราบได้อย่างไรว่าช่างเข้างานกี่โมง หากทีมช่างเข้างานล่าช้า จะติดต่อช่างได้อย่างไร?

โดยปกติแล้วก่อนถึงวันนัดหมาย จะมีทีมช่างโทรไปคอนเฟิร์มลูกค้า หรือหากต้องการติดตามช่าง สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001

2. หากพบปัญหาที่หน้างานระหว่างลูกค้ากับทีมช่าง ต้องทำอย่างไร?

สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่าน Line ID: @abawat.th.care หรือผ่านเบอร์โทร 02-028-7001 เจ้าหน้าที่จะประสานงานและแก้ไขปัญหาให้โดยเร็วที่สุด

3. ลูกค้าสามารถตกลงงานอื่น ๆ นอกเหนือจากล้างแอร์กับทีมช่างเอง และจ่ายเงินกับทีมช่างที่หน้างานเองได้หรือไม่?

หากลูกค้ามีการตกลงกับทีมช่างเองโดยไม่ผ่านบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบ หากพบปัญหาที่เกิดขึ้นในงานนั้น ๆ และขอยกเลิกการรับประกันงานนั้น ๆ ทุกกรณี

เรื่องทั่วไป

1. ใช้ระยะเวลาล้างแอร์นานเท่าไหร่?

โดยปกติใช้เวลาล้างแอร์ประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพของแอร์

2. สามารถดูขนาด BTU ของเครื่องปรับอากศได้อย่างไรบ้าง?

ตำแหน่งที่แสดงจะค่า BTU มีความแตกต่างกันไปตามรูปแบบของเครื่องปรับอากาศ สามารถสังเกตุได้ดังนี้
• เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง
ดูได้จากฉลากเบอร์ 5 ที่ติดอยู่บนเครื่องปรับอากาศ
ดูได้จากที่ติดหรือระบุไว้บริเวณคอมเพรสเซอร์ หรือบางรุ่นจะมีบอกไว้ที่ข้างคอยล์เย็น
• เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดาน
ดูได้ที่ Name Plate ซึ่งเป็นแผ่นป้ายแสดงข้อมูลที่ติดไว้ที่ตัวโครงของชุด Condensing Unit ติดตั้งไว้ภายนอกอาคาร ซึ่งทุกเครื่องที่ผ่านมาตรฐานต้องมีแผ่นป้ายนี้เพื่อบอกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ
หากเป็นเครื่องรุ่นเก่าสามารถดู BTU ได้ที่แผ่นป้ายโลหะที่ตอกเลข BTU ไว้
• ในกรณีที่ฉลากเลือนรางหรือไม่มีข้อมูลเลย
สามารถเปิดฝาครอบออกดูรหัสโค้ดที่ตัวคอมเพรสเซอร์ แล้วมาเทียบในตารางข้อมูลคอมเพรสเซอร์จะได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุด

3. ทำไมต้องล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ?

การล้างแอร์เป็นมากกว่าแค่การทำความสะอาด แต่เป็นขั้นตอนสำคัญในการบำรุงรักษาที่ส่งผลดีหลายประการ ดังนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น เมื่อสิ่งสกปรกถูกขจัดออกไป แอร์จะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกระจายความเย็นได้ดีและทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นเร็วขึ้น
2. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นอับชื้นที่มาจากแอร์ มักเกิดจากเชื้อราและสิ่งสกปรกที่สะสมภายในเครื่อง การล้างแอร์จะช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้อากาศภายในห้องเย็นสดชื่นยิ่งขึ้น
3. สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ แอร์ที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย และฝุ่นละออง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้
และปัญหาระบบทางเดินหายใจ ทำให้สภาพแวดล้อมในบ้านน่าอยู่และดีต่อสุขภาพ
4. ประหยัดค่าไฟ ฝุ่นที่เกาะตามแผ่นกรองและช่องระบายอากาศ ส่งผลให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิ เมื่อล้างแอร์ให้สะอาดจะทำให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง
ค่าไฟฟ้าจึงลดลงตามไปด้วย
5. ยืดอายุการใช้งาน สำหรับการล้างแอร์ ควรล้างอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน จะช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุให้แอร์ทำงานหนัก และอาจเสียหายก่อนเวลาอันควร

4. ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน?

ควรล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน แต่ถ้าอยู่ในสถานที่ ที่มีกลุ่มควัน เช่น ติดถนน สิ่งปลูกสร้าง ห้องครัว ควรล้างทุก ๆ 3 เดือน

5. ขั้นตอนงานล้างแอร์ ดำเนินการอย่างไรบ้าง?

ขั้นตอนงานล้างแอร์ มีดังนี้
1. ตรวจสอบสภาพเครื่อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องปรับอากาศไม่ได้มีปัญหาหรือชำรุด และตรวจสอบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจติดอยู่ภายในตัวเครื่อง
2. ปิดเครื่องและถอดปลั๊ก ก่อนทำการล้างเครื่องปรับอากาศ ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊กเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
3. ทำความสะอาดกรองอากาศ (Air Filter) ถอดกรองอากาศออกมา จากนั้น ทำความสะอาดกรองอากาศด้วยน้ำและแปรงขนนุ่ม หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นในการกำจัดฝุ่นที่เกาะอยู่
4. ทำความสะอาดคอยล์เย็น (Evaporator Coil) ใช้แปรงขนนุ่มหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดคอยล์เย็นที่ด้านในเครื่อง หากมีคราบสกปรกมาก ควรใช้น้ำยาเคมีที่เหมาะสมในการทำความสะอาดคอยล์เย็น
5. ทำความสะอาดคอยล์ร้อน (Condenser Coil) หากมีคราบสกปรกมาก ควรใช้น้ำยาเคมีที่เหมาะสมในการทำความสะอาดคอยล์เย็น ควรตรวจสอบว่าคอยล์ร้อนไม่ถูกปิดกั้นหรือมีสิ่งกีดขวาง airflow
6. ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ (Drain Line) ตรวจสอบท่อระบายน้ำ (Drain line) เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการอุดตัน หากมีการอุดตัน สามารถใช้สายน้ำหรือสายลมเป่าออกเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก
7. ตรวจสอบการทำงานของเครื่อง เปิดเครื่องเพื่อทดสอบการทำงานว่าเย็นดีขึ้นหรือไม่ ตรวจสอบเสียงหรือการทำงานของพัดลมและการหมุนเวียนของอากาศ
8. บำรุงรักษาระยะยาว ตรวจสอบระบบทำความเย็น (Refrigerant Level) ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม หากระดับต่ำ ควรเติมน้ำยา ตรวจสอบการตั้งค่าอุณหภูมิและการทำงานของเทอร์โมสตัท

รับประสบการณ์งานบริการผ่านแอปพลิเคชันบนมือคุณ

ทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราได้รังสรรค์วิธีที่สะดวกที่สุดในการให้ความช่วยเหลือแก่คุณ เพียงปลายนิ้วสัมผัสสำหรับทุกความกังวลใจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ

AndroidIOS